วันอังคารที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2555

ไข้หวัดนก H5-N1 ลุกลามทั่วเอเชียโดยไม่สามารถควบคุมได้!


ไต้หวัน 27 ธันวาคม 2011
มีการค้นพบ เชื้อไข้หวัดนก H5-N1 ที่ฟาร์มไก่ในเมืองชางหัวแต่จริงๆแล้วยังไม่มีการคัดกรองเพื่อตรวจสอบเชื้อโรคสัตว์ในฟาร์มเลย!

7 กุมภาพันธ์ 2012
มีการตรวจพบเชื้อไข้หวัดนก H5-N1 ที่ไทนาน แต่ไม่มีรายงานจำนวนสัตว์ที่กำลังป่วย แต่มีไก่จำนวน 57,500 ตัวติดเชื้อแล้ว และมีการส่งออกสินค้าอาหารที่ทำมาจากสัตว์ปีกมูลค่าถึง 23,760 ล้านเหรียญสหรัฐฯ!

3 มีนาคม 2012
หลังจากมีการระบาดของเชื้อไข้หวัดนก ทางองค์การการค้าโลก (WHO) ประกาศขณะนี้เชื้อไข้หวัดนก H5-N1 ได้หยุดการแพร่กระจายเชื้อด้วยการสัมผัสแล้ว

กรุงฮานอย 9 มกราคม 2010
กรมสุขภาพสัตว์ในเวียดนามได้มีการออกมาเตือนว่าหากไม่มีมาตรการการป้องกันที่ดีพออาจทำให้เชื้อไข้หวัดนกแพร่ระบาดและไม่สามารถควบคุมได้ นอกจากนี้เชื้อไข้หวัดนกยังได้ลามไปถึงเขตชุมชนใน 4 จังหวัด Quang Tri, Dena, Thanh Ho และ Soc Trang aus ไก่จำนวน 1,700 ตัวถูกฆ่า และในขณะนี้มีการฆ่าไปแล้ว 4,000 ตัวรวมทั้งเป็ดด้วย รองอธิบดี Pham Van Dong กล่าวในที่ประชุมคณะกรรมการดำเนินการป้องกันไข้หวัดนก กระทรวงสาธารณะสุข นอกจากนี้เชื้อไข้หวัดนกในสัตว์ปีกยังมีการตรวจพบอีกในพื้นที่อื่น เช่นที่ Nghe, Bac Lieu, Kien Giang, Hanoi และ Thai Nguyen ในพื้นที่เลี้ยงสัตว์ปีกเหล่านี้ส่วนหนึ่งมีการส่งออกสินค้ามายังประเทศไทยด้วยเช่นกัน สถานการณ์จนถึงขณะนี้ มีผู้ป่วยที่ได้รับเชื้อนี้ 2 รายในพื้นที่สามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขง กระทรวงสาธารณะสุขเตือนอาจมีการแพร่ระบาดของเชื้อโรคครั้งใหญ่ซึ่งอาจไม่สามารถควบคุมได้ใน 3 จังหวัด ได้แก่ Trang และ Kien Giang
นอกจากนี้มีการตรวจพบการกลายพันธุ์ของเชื้อไวรัส H5 N1 ในบางพื้นที่ของภาคเหนือและยังไม่มียารักษาโรคใดๆสำหรับโรคนี้ Hoang Van Nam อธิบดีกรมสุขภาพสัตว์เตือน เราต้องมีมาตรการพิเศษเพื่อต้านการกลายพันธุ์ของไวรัสไข้หวัดนก

รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณะสุขได้มีการหารือกับองค์กรที่เกี่ยวข้องกับการผลิตยาต้านไวรัสนี้เพื่อให้ได้ข้อสรุปในการพัฒนาตัวยาที่มีประสิทธิภาพดีกว่าตัวยารุ่นก่อน สาธารณะสุขจังหวัด Soc Trang มีรายงานว่า พบผู้เสียชีวิตซึ่งพึ่งจะคลอดบุตรรายหนึ่งติดเชื้อไข้หวัดนก H5N1ที่กลายพันธุ์แล้ว ผลตรวจเชื้อ H5N1 ออกมาเป็นเนกาทีฟ หรือเป็นลบ

ราล์ฟ กวินเธอร์ให้ความเห็นว่า:
ในตอนนี้เราสามารถสันนิฐฐานได้ว่าเชื้อไวรัส H5N1 ได้มีการกลายพันธุ์แล้วและมีความรุนแรงสูงมากต่อสิ่งมีชีวิต ไม่มีสิ่งใดรับประกันได้ว่าไวรัสนี้จะไม่มีการติดเชื้อไวรัสนี้จากสัตว์สู่มนุษย์

เราทราบกันแล้วว่าเชื้อไวรัสไข้หวัดนก H5N1 ยังไม่มีอันตรายร้างแรงโดยตรงต่อมนุษย์ แต่เมื่อใดที่เชื้อนี้เข้าสู่ร่ายกายมนุษย์จะมีโอกาสเสียชีวิตสูงถึงร้อยละ 80 ซึ่งสถานการณ์จนถึงขณะนี้ยังไม่มีรายงานการติดต่อจากคนสู่คนของเชื้อโรค แต่เรายังไม่สามารถวางใจการกลายพันธุ์ของ H5N1 ได้ ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้นจะถือได้ว่าเป็น ไวรัสตัวฉกาจที่พร้อมจะคร่าชีวิตมนุษย์ได้ทุกเมื่อและทุกที่!

เนปาล วันที่ 9 มกราคม 2012
เมื่อมีการแพร่ระบาดของไข้หวัดนกและมีไก่จำนวน 28,000 ตัวต้องตายลงที่อินเดีย มีสัตว์ปีกจำนวน 350,000 ตัวติดเชื้อในเขตเบงกอลตะวันตกและกำลังจะถูกกำจัดในไม่ช้าเพื่อเป็นการป้องกันไว้ก่อน ผู้บริหารส่วนภูมิภาคกล่าวโดยหวังว่าจะไม่มีอันตรายใดๆจากเชื้อทำอันตรายมนุษย์ได้ ทางช่องทีวี NDTV รายงานว่า ผู้เชี่ยวชาญกำจัดเชื้อโรคลงพื้นที่ทำการกำจัดและล้างทำความสะอาดเพื่อหยุดการแพร่ระบาด

พบการระบาดของโรคในไก่อีกครั้ง นับแต่ปี 2009 ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเนปาล ตัวอย่างไก่ที่อยู่ในพื้นที่ถูกส่งเข้าห้องปฏิบัติการที่ลอนดอนเพื่อตรวจสอบ พื้นที่มีการติดเชื้อแล้วอยู่ในเขต Khanar, Ithari, Sunsari, Ilam และPanchathar ซึ่งเป็นที่รู้จักในเรื่องการปลูกชา จนถึงขณะนี้มีการฆ่าไก่ไปแล้ว 4,000 ตัว แม้ว่าจะมีรายงานพบอาการของโรคในมนุษย์แต่จนถึงชั่วโมงนี้ยังไม่มีข้อสรุปการติดต่อของโรคจากมนุษย์ไปสู่มนุษย์

พม่า 29 กุมภาพันธ์ 2012
เชื้อไข้หวัดนกเริ่มมีการขยายพื้นที่ในเมือง Chaung U ของพม่า แม่ไก่ไข่อายุ 5 – 18 เดือน ติดเชื้อไปแล้ว 1,060 ตัว ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2012 มีรายงานการจำนวนไก่ที่ตายแล้วไม่มาก ในจำนวนนี้มีไก่ 61 ตัวตายภายใน 4 วัน ซึ่งจริงๆมีฟาร์มไก่ 40,000 แห่งและ 139 แห่ง ในเมือง Chaung ไก่ติดเชื้อไข้หวัดนกแล้วทั้งไก่ไข่และไก่เนื้อ แต่ยังไม่มีการการกำจัดแต่อย่างใด!

จีน 1 มีนาคม 2012
พบซากนกตาย 3 ตัวบนหลังคาโรงงานในเมือง Cheung Chau

บังคลาเทศ 10 มีนาคม 2012
ไข้หวัดนกส่งผลกระทบอย่างหนักต่อตลาดขายสัตว์ปีก 6 แห่งในเมืองหลวง ก่อนหน้านี้ 15 วัน พบว่ามีคน 3 คนมาจากตลาดที่มีการปนเปื้อนของเชื้อไข้หวัดนก พวกเขาสามารถแพร่เชื้อได้หรือไม่?

เรายังคงจำข้อมูลบางอย่างในกัมพูชาได้
05/11/2011
เชื้อร้ายไข้หวัดนกในกัมพูชา
มีรายงานพบผู้เสียชีวิตจากไข้หวัดนกแล้วในกัมพูชา ข้อมูลจากกระทรวงสาธารณะสุขพบเด็กหญิงอายุ 5 ปีจากจังหวัด Prey Veng ผลการตรวจในห้องปฏิบัติการทางแพทย์พบว่ามีการติดเชื้อไวรัสไข้หวัดนก H5N1
เด็กหญิงคนนี้เริ่มมีอาการเมื่อวันที่ 11 เมษายน และได้เข้ารับการรักษาพยาบาลในโรงพยาบาลท้องถิ่น แต่ไม่สามารถรักษาได้ 2 วันต่อมาจึงได้ถูกส่งตัวไปที่โรงพยาบาลเด็ก Kantha Bopha และเสียชีวิตลงด้วยสาเหตุการติดเชื้อไข้หวัดนกที่โรงพยาบาลนี้เมื่อวันที่ 16 เมษายน แม้ว่าจะได้รับการรักษาอย่างดีที่สุดแล้วก็ตาม

ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่รายงานว่าเด็กหญิงคนนี้อาจมีสาเหตุการเสียชีวิตจากสัตว์ปีก นอกจากนี้ มีคน 53 คนที่เคยสัมผัสกับเด็กมาแล้วและล่าสุดมีการตรวจสอบในห้องปฏิบัติการแล้ว

ในปีนี้มีสามในห้าของกรณีการติดเชื้อไข้หวัดนกในมนุษย์มีการยืนยันแล้วในกัมพูชาซึ่งไม่ว่าจะเป็นกรณีไหนล้วนแล้วแต่อันตรายถึงชีวิตทั้งสิ้น ผู้ติดเชื้อ 4 คนเป็นเด็ก รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณะสุข Mam Bun Heng เปิดเผยว่า หากเปรียบเทียบกับปีก่อนสำหรับกรณีเชื้อ H5N1 พบว่าเด็กมีความเสี่ยงสูงในการติดเชื้อมากที่สุด จึงต้องขอวิงวอนให้พ่อแม่ ผู้ปกครองช่วยกันดูแล สอดส่องไม่ให้เด็กเข้าใกล้สัตว์ปีกอย่างใกล้ชิด

จากในกรณีล่าสุด จำนวนผู้ติดเชื้อ H5N1 ในกัมพูชาทั้งหมด 15 ราย และ 13 รายในจำนวนนี้เสียชีวิตแล้ว
แหล่งข่าวที่มา :WHO AFP

ราล์ฟ กวินเธอร์ ให้ความเห็นว่า:
ตามข้อเท็จจริงแล้ว ประชากรในเอเชียบริโภคเนื้อสัตว์ปีกมากถึงร้อยละ 90 ดังนั้นจึงควรระมัดระวังในเรื่องการนำเสนอข่าวของสื่อเพื่อไม่ให้เกิดการตระหนกตกใจของผู้บริโภคและให้ข่าวตามความเหมาะสม
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในจีน สำหรับการให้ข่าวสารไข้หวัดนกที่ถูกต้องและไม่สร้างความกังวลให้ผู้บริโภคเกิดความตกใจจนเกินไป สำหรับข้อมูลจริงที่มีการค้นพบมากกว่านั้นอาจไม่ต้องรายงานก็ได้ เพราะอาจทำให้ไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้!



ราลฟ์ กวินเธอร์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น